โลกใต้มหาสมุทรส่วนที่ลึกที่สุดมีอะไรอยู่

James_Cameronneww22

challenger_deeppic

‘Challenger Deep’ คือ ชื่อเรียกของจุดลึกสุดของมหาสมุทร ซึ่งเป็นจุดที่มนุษย์สามารถลงไปได้ถึง ณ ขณะนี้ โดยมีระดับความลึก ถึง 10,911 เมตร อยู่บริเวณปลายร่องลึก Mariana อันมีลักษณะเป็นแอ่งขนาดเล็กซึ่งอยู่ก้นใต้มหาสมุทร ซึ่งมีรูปทรงจันทร์เสี้ยวขนาดค่อนข้างใหญ่

‘Challenger Deep’ ความลึกลับแห่งใต้มหาสมุทร อันสุดหยั่งลึก

แผ่นดินที่อยู่ใกล้กับ ‘Challenger Deep’  มากที่สุด คือ เกาะไฟส์ สำหรับแอ่งสุดลึกนี้ ถูกชื่อตามเรือสำรวจกองทัพเรืออังกฤษ HMS Challenger มีการออกสำรวจเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1872-76

การดำลงไปสำรวจใน ‘Challenger Deep’ มีการจดบันทึกไว้เพียง 3 ครั้งเท่านั้น สำหรับการดำลงไปในครั้งแรกเป็นการดำโดยยานสำรวจน้ำลึก ‘Trieste’ ในปี ค.ศ. 1960 ซึ่งมีมนุษย์กำลงไปด้วย หากแต่ในครั้ง 2 ไม่มีการส่งมนุษย์ลงไปหากแต่ใช้พาหนะควบคุมใต้น้ำควบคุมจากระยะไกล ในปี ค.ศ. 1995 และครั้ง 3 คือ ในปี ค.ศ. 2009 สำหรับการดำทั้ง 3 ครั้งนี้ ได้มีการวัดค่าความลึก ตั้งแต่ช่วง 10,902 – 10,916 เมตร ต่อมาในเดือนมกราคม ค.ศ. 2010 เป็นปีเฉลิมฉลองครบรอบปีที่ 50 ของการดำน้ำของ ‘Trieste’

James_Cameronneww

James cameronเป็นมนุษย์คนแรกที่ดำลงไป ในจุดลึกสุด

ผู้กำกับหนังชื่อดัง ผู้สร้างภาพยนตร์ระดับตำนาน Avatar และ Titanic ‘James cameron’ อาสาเป็นมนุษย์คนแรกที่ใช้เรือดำน้ำลงส่วนลึกสุดของโลก ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีอะไรรออยู่ เขาเป็นผู้หลงรักใต้ท้องทะเลลึกมานานแล้ว ซึ่งความหลงใหลนี้แสดงผ่านออกมาจากงานกำกับเรื่อง ‘The Abyss’ บอกเล่าเรื่องราวของเอเลี่ยนที่แอบซ่อนตัวอยู่ใต้มหาสมุทร รวมทั้งเรื่องราวของความรักอันสุดซาบซึ้งบนเรือยักษ์ซึ่งจมลงสู่ก้นทะเลใน ‘Titanic’ โดยเขาลงไปสัมผัสประสบการณ์อันสุดแปลกใหม่ด้วยพาตัวเองเข้าไปอยู่ในแคปซูลดำน้ำขนาดเล็กขนาดพอดีตัวเท่านั้นเพื่อดำดิ่งสู่ใต้โลกที่ไม่เคยมีใครย่างกรายเข้าไปถึง สำหรับยานพาหนะที่ ‘James cameron’ จะใช้ลงไปนั้นแน่นอนว่ามีความปลอดภัยในระดับสูง อีกทั้งยังมีกล้องติดตั้งเต็มไปหมด ซึ่งเขาได้ให้ฉายาว่าเป็น ‘ตอร์ปิโดแนวดิ่ง’ ถูกสร้างมาเพื่อให้ขึ้น – ลงได้อย่างเร็ว ทำให้ใช้เวลาอยู่ข้างล่างให้ได้นานที่สุด

โดยผู้กำกับคนดังยังได้ออกมาพูดถึงประสบการณ์อันแสนน่าตื่นเต้นครั้งนี้อีกว่า ‘ใต้มหาสมุทรลึก จัดเป็นแห่งสุดท้ายที่ยังไม่ได้รับการสำรวจ ถึงแม้จะมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ออกมารองรับมากมายเต็มไปหมด มากจนถึงขนาดเท่ากับการสำรวจร่วมร้อยปีเลย เพราะฉะนั้นจึงต้องลงไป เพราะเราไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่’